วันพุธที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2561

Chaos and Creation at Abbey Road: คอนเสิร์ตที่บอกเล่ากระบวนการสร้างสรรค์ผลงานของ The Beatles




ต้องขอโทษสมาชิกด้วยครับที่ห่างหายไปนานเนื่องจากติดภารกิจส่วนตัวบวกกับเป็นช่วงจำศีลทำให้อยากอยู่เงียบๆคนเดียวสักพักครับ

วันนี้ขอกลับมาด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับคอนเสิร์ตในบรรยากาศส่วนตัวแบบเป็นกันเองของ Paul McCartney ภายใน Studio 2 ซึ่งเป็นสตูดิโอที่ใช้อัดเสียงเพลงส่วนใหญ่ของ The Beatles คอนเสิร์ตนี้จัดขึ้นเป็นการเฉพาะสำหรับบรรดามิตรสหายและแฟนเพลงกลุ่มเล็กๆของ Paul McCartney เพื่อโปรโมทอัลบั้ม Chaos and Creation in the Backyard ของ Paul ที่ออกมาในปี 2005 เคยนำออกฉายทางสถานี BBC Two ในอังกฤษ และ PBS ในอเมริกา 

แม้ว่าเทคโนโลยีที่แสดงจะล้าสมัยไปแล้วเพราะเป็นเทคโนโลยียุค analog ที่ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆยุค digital แต่ในตอนที่ The Beatles เริ่มนำกระบวนการที่ Paul สาธิตให้ดูในคอนเสิร์ตนี้ต้องถือว่าเป็น state of the art ในยุคนั้น







Highlights ที่น่าสนใจของคอนเสิร์ตนี้ ได้แก่

- สาธิตการอัดเทป 4-track ที่ใช้ในอัลบั้ม Sgt. Pepper แต่เทคโนโลยีนี้ The Beatles เริ่มนำมาใช้เป็นครั้งแรกในซิงเกิล I Want to Hold Your Hand สองอัลบั้มแรกของ The Beatles (Please Please Me, With the Beatles) ยังคงใช้การอัดแบบ 2-track

Abbey Road Studios ของ EMI ต้นสังกัดของ The Beatles ค่อนข้างช้าในการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ โดยเห็นได้จากการอัดในระบบ 8-track ที่มีมาตั้งแต่ปี 1968 แต่ EMI ก็ยังไม่ได้นำมาใช้ในสตูดิโอ ทำให้หลายเพลงของ The Beatles ต้องไปอัดในสตูดิโออื่นที่ upgrade แล้วเพราะทางวงต้องการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ในผลงานของตน Abbey Road อัลบั้มที่อัดเสียงเป็นอัลบั้มสุดท้าย (แต่ออกมาก่อน Let It Be รายละเอียดเรื่องนี้อยู่ในบทความ "การแยกวง ตอนที่ 1") เป็นอัลบั้มเดียวที่ใช้การอัดด้วยระบบที่ใช้ transistor เริ่มต้นการเข้าสู่ยุค digital

- double bass ที่ Elvis ใช้ในการเล่นและอัดเสียงตอนที่ Elvis เริ่มเข้าวงการ สังเกตว่า Paul ร้องเพลงเลียนแบบเสียงของ Elvis ด้วยเสียงทุ้มต่ำที่ปกติเขาจะไม่ค่อยใช้ในเพลงของ The Beatles ตามทฤษฎีเสียงแล้ว ระดับเสียงของ Paul อยู่ในช่วงเสียงที่เรียกว่า baritenor ที่คาบเกี่ยวระหว่าง baritone และ tenor คือเป็นช่วงที่กว้างมาก เสียงของเขาสามารถจะลงต่ำและขึ้นสูงได้มากกว่าคนทั่วไป

- สาธิตวิธีเล่น mellotron ต้นแบบของ synthesizer โดยใช้บรรเลงในเพลง Strawberry Fields Forever ในช่วงต้นของเพลง ต้องให้เครดิตกับ The Beatles ที่ทำให้เครื่องดนตรีประเภท synthesizer ได้รับความนิยมในเวลาต่อมา

John และ Paul กำลังง่วนอยู่กับ mellotron



- ที่มาของ bass line เพลง Blackbird ตามคำอธิบายของ Paul ในคลิปนี้ เขาแค่บอกว่าเขาแต่งเพลงนี้โดยได้รับอิทธิพลจากเพลงหนึ่งของ J. S. Bach ที่เขาและ George หัดเล่นตอนเป็นเด็กแต่บอกว่าจำชื่อบทเพลงนี้ไม่ได้ ผู้รู้ให้ข้อมูลว่าเพลงนี้น่าจะมาจากบทเพลง Bourree in E minor ของ Bach ยังมีรายละเอียดน่าสนใจเกี่ยวกับการแต่งเพลงนี้ที่ผมจะได้นำมาเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไปครับ

- ขั้นตอนการอัดเสียงที่เริ่มตั้งแต่การตีกลองไปจนถึงเมโลดี้โดยใช้การเดินคอร์ดจากเพลง Blue Suede Shoes ของ Elvis ช่วงนี้เป็นช่วงที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความเป็น entertainer ของ Paul ที่สร้างอารมณ์และการมีส่วนร่วมจากคนดูได้ดีจนทำให้เขายังคงเป็นที่ชื่นชอบของแฟนเพลงจนทุกวันนี้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น